11 เทคนิคทางจิตวิทยาที่ร้านอาหารใช้เพื่อให้คุณจ่ายเงินมากขึ้น
การรับประทานอาหารนอกบ้านเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แต่ทราบหรือไม่ว่าจากงานวิจัยพบว่ากว่าจะมาเป็นเมนูอาหารที่คุณคิดว่าคุณเลือกในสิ่งที่คุณอยากรับประทานนั้นทางร้านอาหารร่วมมือกับผู้ออกแบบเมนูอาหารใส่เทคนิคทางจิตวิทยาที่ส่งต่อการเลือกอาหารนั้นๆและทำให้คุณต้องจ่ายเงินเพิ่มอย่างไรบ้าง

1. หลีกเลี่ยงการใส่เครื่องหมาย $ (ดอลลาร์) - จากงานสำรวจของ Cornell Universityแสดงให้เห็นว่าควรหลีกเลี่ยงการใส่เครื่องหมาย $ (อาจหมายรวมถึงเครื่องหมาย ฿ ด้วย) เพราะเครี่องหมายนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าอาหารนั้นมีราคาแพง
2. เทคนิคการใส่ราคาอาหาร – การใส่ราคาอาหารที่ลงท้ายด้วยเลข 9 เช่น 9.99 อาจทำให้รู้สึกว่าคุ้มค่าแต่อาจทำให้รู้สึกว่าไม่มีคุณภาพ ถ้าหากเป็นราคาที่ลงท้ายด้วยเลข 5 เช่น 9.95 แทน จะให้ความรู้สึกเป็นมิตรมากกว่า
3. คำบรรยายถึงอาหาร – จากงานวิจัยพบว่าคำบรรยายถึงอาหารหรือกระบวนการประกอบอาหารหรือแม้แต่การบรรยายถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารจะสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้ถึง 27 % เมื่อเทียบกับอาหารที่ไม่มีคำบรรยาย
4. เชื่อมโยงอาหารให้เกี่ยวข้องกับคนในครอบครัว – ลูกค้าจะมีความสนใจเป็นพิเศษกับชื่ออาหารที่มีความเชื่อมโยงไปถึงคนในครอบครัว เช่น “คุกกี้โฮมเมดสูตรคุณยาย” หรือ “เมนูสลัดสูตรคุณป้า” จะให้ความรู้สึกคิดถึงบ้าน
5. ตั้งชื่ออาหารเป็นศัพท์เฉพาะจากต่างประเทศ – จากงานวิจัยเห็นพ้องต้องกันว่าหากมีการตั้งชื่ออาหารเป็นศัพท์จากต่างประเทศหรือภาษาท้องถิ่น เช่น ชื่ออาหารอิตาลี จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าเป็นพิเศษ
6. ทำเมนูนั้นให้โดดเด่นและมองเห็นชัดเจน – ชื่อเมนูอาหารใดที่มีการใช้ตัวอักษรหรือสีสันที่สวยงาม พร้อมกับมีรูปภาพประกอบหรือแยกเมนูอาหารนั้นๆออกไปให้ดูโดดเด่นกว่าเมนูอื่น จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ มักใช้กับการนำเสนอเมนูบางชนิด แต่วิธีนี้ไม่นิยมใช้ในภัตตาคารระดับสูงเพราะทำให้ดูไม่มีรสนิยม
7. นำเสนอเมนูราคาแพงเพื่อดึงดูดให้สนใจเมนูที่ราคาถูกกว่า – ร้านอาหารมักจะสร้างเมนูอันแสนแพงมานำเสนอ ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าคุณไม่ซื้อ แต่คุณจะมองหาเมนูที่ใกล้เคียงกันในราคาที่ถูกกว่าและสมเหตุสมผลมากกว่า และนั่นแหละคือสิ่งที่ร้านอาหารต้องการให้คุณเลือก
8. มีเมนูให้เลือก 2 ขนาด – คือขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งลูกค้ามักจะไม่ทราบว่าทั้ง 2 ขนาดต่างกันมากน้อยอย่างไร จึงมักคิดไปเองว่าถ้าสั่งเมนูขนาดเล็กจะคุ้มค่ากว่าเพราะราคาถูกกว่า โดยไม่รู้เลยว่าเมนูขนาดเล็กนั่นแหละเป็นสิ่งที่ร้านอาหารต้องการจะขาย
9. ตำแหน่งการจัดวางของเมนูอาหาร – งานวิจัยของเกาหลีพบว่าลักษณะการอ่านเมนูอาหารก็เหมือนกับการอ่านหนังสือลูกค้ามักจะกวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็วแต่จะจดจำได้แต่เมนูที่ดึงดูดและมักจะเป็นเมนูแรกที่เห็น เมนูที่ดึงดูดความสนใจและลูกค้าทำการสั่งมักจะอยู่ที่ “ตำแหน่งขวาด้านบน” ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สายตาเราจะมองไปก่อนส่วนอื่น ดังนั้นร้านอาหารมักจะวางเมนูที่ขายได้กำไรดีไว้ในตำแหน่งนี้
10. จำกัดตัวเลือกให้คุณ – ร้านอาหารจะลดจำนวนตัวเลือกของอาหารในแต่ละหมวดให้เหลือน้อยมากเพื่อให้คุณไม่ต้องหนักใจกับการเลือก และเป็นผลดีกับทางร้านด้วย จำนวนตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับร้านฟาสต์ฟู้ดจะประมาณ 6 ชนิดในแต่ละหมวดหมู่ และ 7-10 ชนิดสำหรับภัตตาคาร
11. การสร้างบรรยากาศภายในร้าน – จากงานวิจัยเห็นตรงกันว่า ถ้ามีการเล่นดนตรีคลาสสิกภายในร้านจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากสั่งอาหารเพิ่มขึ้น ในขณะที่เพลงป๊อปส่งผลให้ลูกค้าสั่งอาหารน้อยลงถึง 10%
Credit: http://www.primoprime.com/